วิธีดูโบรกเกอร์ว่าเป็นจำพวก A-BOOK หรือ B-BOOK ?
โดยปรกติแล้ว การเทรด Forex จะสามารถทำได้ผ่านทางธนาคารโดยตรง หรือ ตัวแทน Broker ที่มีใบอนุญาตแต่ในปัจจุบัน ตัวแทน Broker ต่างๆ ที่มีการเปิดให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินตราต่างประเทศ (Forex) มีทั้งที่ถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย โดยเราจะเรียก Broker จำพวกที่ส่งราคาเข้าตลาดจริงว่า A Book และ Broker ที่ไม่ได้ส่งราคาจริงว่า B Book หรือโบรกเถื่อนนั่นเองครับ
โบรกเกอร์ไหนคือ A-Book หรือ B-Book?
A Book Broker (Real Broker) โบรกเกอร์ถูกกฏหมาย
โบรกเกอร์ที่แท้จริง จะทำกำไรจากค่า Spread และ Commission ตามเงื่อนไขที่ประกาศตอนแรกเท่านั้น (ค่า Spread สามารถเพิ่มลดได้ตามแรงซื้อขายในตลาดจริง) เนื่องจาก มีการส่งเงินเข้าสู่ตลาดจริง 100% ดังนั้น เมื่อเกิดวิกฤติต่างๆ ในการเปลี่ยนแปลงค่าเงิน จึงไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากความผันผวนดังกล่าว Trader สามารถทำกำไรได้อย่างเต็มที และ มีความปลอดภัยสูง การสมัครโบรคเกอร์ประเภทนี้จะมีเอกสาร และข้อกำหนดต่างๆ ตามกฏหมายการเงินการธนาคารสากล เป็นตัวบังคับ Broker กลุ่มนี้ จะมีแผนการตลาดแบบ Win:Win เพื่อให้ลูกค้าสามารถทำกำไรได้ อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
B Book Broker(Illegal Broker) โบรกเกอร์ผิดกฏหมาย
จะทำกำไรจากการฝากถอนเงินบัญชีเทรด โดยที่โบรกเกอร์ไม่ได้ส่งเข้าตลาดจริงๆ พูดง่ายๆ คือ โบรกรับเป็นเจ้ามือเสียเอง ดังนั้นเมื่อเราเทรดได้ โบรกก็จะเสียผลประโยชน์ แต่ถ้าเราเทรดเสียโบรกก็จะกำไร ดังนั้นโบรกเกอร์ประเภท B-book จึงมีรูปแบบการโกงลูกค้าในรูปแบบต่างๆ เช่น การกราฟดึงไส้เทียน การดีเลย์คำสั่งออเดอร์ (อาการ Requote) หรือ การถ่างค่าสเปรดเกินจริง หรือ แม้กระทั้งปิดโบรกหนี เป็นต้น ซึ่งโบรกประเภทนี้จึงจัดว่าเป็นโบรกที่ผิดกฏหมาย (โบรกเกอร์ Forex ไหนที่เจ้าของเป็นคนไทยก่อตั้งโดยอ้างว่าจดทะเบียนถูกต้องในประเทศไทยก็เป็นโบรกเกอร์เถื่อนเช่นกันครับ)
ทีนี้เห็นความแตกต่างไหมครับ ที่นี้คุณจะเลือกโบรคเกอร์แบบไหนก็ต้องพิจารณากันเอาเองนะครับ
การเทรดกับธนาคารโดยตรงเป็นอย่างไร?
การเทรดกับ Bank สัดส่วนของ Broker ที่ถูกต้องตามกฏหมายสากลในตลาดโลก มีเพียงแค่ 70% ที่ทำธุรกิจอย่างถูกกฏหมายและไม่เอาเปรียบลูกค้า อีก 30% ที่เหลือเป็น Broker ผิดกฏหมาย บางคนมีทุนมหาศาลก็จะเทรดกับธนาคารโดยตรง เพื่อป้องกันการหลอกลวงและเมื่อเกิดปัญหา ก็สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ แต่ถึงอย่างนั้น การเทรดกับธนาคารก็มีข้อจำกัดหลายอย่างที่ไม่ยืดหยุ่นเท่ากับ Broker เช่น ต้องมีการการจ้างทนายระดับสากลเพื่อรับรอง, ค่าธรรมเนียมต่างๆที่สูงกว่า Broker, ช่องทางการฝากถอนที่จำกัด และถูกบังคับด้วยกฏหมาย เป็นต้น ถึงวันนี้คุณรู้หรือยังว่า Broker ที่คุณกำลังใช้บริการ เป็น Broker ชนิดใด และมีจรรยาบรรณในการประกอบธุรกิจมากน้อยแค่ไหนหาก ผู้ให้บริการไม่มีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า Broker ที่ท่านใช้ ก็อาจจะกลายเป็นฝันร้ายที่จะต้องฟ้องร้องกันอย่างไม่จบสิ้น
วิธีดูโบรกเกอร์ว่าเป็นจำพวก A-BOOK หรือ B-BOOK ?
Reviewed by Ps nackisaiah
on
พฤษภาคม 06, 2563
Rating: